บางคนเก็บเงินมาเพื่อซื้อเครื่องประดับเพชรสักชิ้นแต่ไม่กล้าที่จะซื้อ เพราะดูไม่เป็น ก็กลัวว่าได้ของไม่ตรงปก หรือทุกครั้งที่ไปร้านเพชร คนขายมักพูดว่า เพชรเม็ดนี้สวยแล้ว เหลี่ยมดี ไฟดี ตำหนิแบบนั้น แบบนี้ เลือกเม็ดได้นี้เลย แล้วดีอย่างที่เค้าพูดรึเปล่า จึงเป็นที่มาของบทความนี้ พชร เจมส์ มีคำตอบ.. ซื้อเพชรให้เป็น ดูยังไง
แล้วคุณเคยมีคำถามมั๊ยว่า จริงๆแล้วจะเลือกซื้อเพชร ต้องรู้อะไรบ้าง เลือกเพชรยังไงให้ดีที่สุดตามที่ต้องการ.. คำตอบ คือ คุณต้องทำรู้จัก 4Cs ที่มาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ
เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีคำถามต่อว่า 4Cs คืออะไร แล้วทำไมเกี่ยวข้องกับกับการซื้อเพชร พชร เจมส์ จะช่วยไขข้อสงสัยของคุณ
4Cs เป็นตัวกำหนด คุณภาพ และ ราคาของเพชร ประกอบด้วย Clarity (ความสะอาด) Color (สี) Cut (การเจียระไน) และ Carat (น้ำหนัก)
Clarity Grade เป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่จะสามารถกำหนดมูลค่าของเพชรในระยะยาว เพชรธรรมชาตินั้นเกิดภายใต้ความร้อนและความดันสูงภายใต้เปลือกโลก หล่อหลอมและตกผลึกออกมาเป็นเพชรแท้ ในกระบวนการเกิดทำให้เพชรส่วนมากจะมีตำหนิเกิดขึ้นมาด้วย มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะเป็นเพชรไร้ตำหนิแบบ Perfect
ความสะอาดของเพชร หรือ Clarity จึงเป็น C ตัวแรกที่นักอัญมณีศาสตร์นำมาใช้ในการประเมินคุณภาพเพชร โดยประเมินจากชนิด จำนวน ขนาด และตำแหน่งของตำหนิที่พบภายในเนื้อเพชรและภายนอก ที่ส่องดูด้วยกล้องขยาย 10 เท่า (Loupe 10X) และจัดระดับคุณภาพของความสะอาดเรียงจากความสะอาดมากไปหาน้อยตามลำดับ ได้แก่ FL (Flawless), IF (Internally Flawless), VVS (Very Very Slightly Included), VS (Very Slightly Included) , SI (Slightly Included), และ I (Included)
ตำหนิของเพชรแต่ละเม็ด มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเม็ดนั้น ยากที่จะหาเพชรที่ตำหนิเหมือนกันมาทดแทนได้
หากคนขายไม่ได้อธิบายถึงความสะอาดของเพชรทีกำลังเสนอขายอยู่ คนซื้อไม่ต้องเขินอายสามารถถามระดับความสะอาดได้เลย จะทำให้รู้ว่าคนขายกำลังขายเพชรเกรดไหนอยู่
ทางร้าน ได้นำรูปตำหนิภายใน (Inclusion) และ ตำหนิภายนอก (ฺBlemish) ทีพบบ่อยมาให้ชมกัน
C ตัวที่สอง คือ Color หรือ สี
Color Grade โดยปกติแล้วคนไทย มักจะเรียกสีของเพชรว่า “น้ำ” เริ่มที่ น้ำ 100, 99, 98, 97 เทียบได้กับสี D color, E, F, G ไล่เรียงลงไปตามลำดับ
เพชร เกิดจากธาตุคาร์บอน แต่เมื่อมีธาตุไนโตรเจนเจือปนในโครงสร้างผลึก จึงทำให้จากเพชรที่ไร้สีนั้น เริ่มมีสีเหลืองไปเรี่อยๆ ตามปริมาณของธาตุที่เจือปน
นักอัญมณีศาสตร์ประเมินคุณภาพสีของเพชร โดยนำเพชรแต่ละเม็ดมาเทียบกับเพชรสีต้นแบบ (Diamond Master Set) ทำให้เราทราบได้ว่าเพชรแต่ละเม็ดนั้นมีสีอะไร
ในแวดวงเครื่องประดับจะนิยมเพชรใสไร้สี (Colorless) ถึงสี Near-Colorless มาประดับลงบนตัวเรือน เพราะจะช่วยให้เครื่องประดับของคุณเปล่งประกายความงดงามได้มากเลยทีเดียว
เชื่อว่าบางคนอาจจะมีคำถามว่าแล้วเพชรต้องน้ำเท่าไหร่ถึงจะดี ซึ่งไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง ขึ้นอยู่กับความชอบของคนที่สวมใส่ หากชอบเพชรที่มีความขาวๆ จะเลือกเพชรน้ำ 100 (D Color) หรือ 99 (E Color) แต่หากชอบเพชรที่เล่นไฟได้ดี จะเลือกเพชรน้ำ 98 (F Color) หรือ น้ำที่รองลงมา
C ตัวที่สาม คือ Cut หรือ การเจียระไน
Cut Grade คือ การประเมินคุณภาพการเจียระไน ความงามและประกายของเพชรที่ส่องออกมานั้นจะขึ้นอยู่กับสัดส่วนและเหลี่ยมการเจียระไนของเพชรแต่ละเม็ด เพชรที่มีการเจียระไนด้วยสัดส่วนที่ดีจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของแสงและประกายที่ส่องออกมา
GIA Cut Scale ได้กำหนดช่วงการเจียระไนไว้ 5 ระดับ Excellent (ดีเลิศ), Very Good, Good, Fair ถึง Poor (แย่สุด) เพื่อบอกคุณภาพการเจียระไน
บางคนอาจจะสงสัยแล้ว อยากได้เพชรที่เป็น Heart & Arrow ด้วยต้องดูยังไง เมื่อเพชรที่มีสัดส่วนการเจียระไนที่มีความสมมาตร เพชรจะเป็น Heart and Arrow โดยอัตโนมัติ
พชร เจมส์ จึงคัดสรรเพชรทุกเม็ดด้วยการเจียระไนระดับ Excellent เพื่อให้เพชรของคุณได้สัดส่วนและเปล่งประกายสวยงามที่สุด
C ตัวสุดท้าย คือ Carat หรือ น้ำหนัก
Carat เป็นหน่วยสำหรับบอกน้ำหนักของเพชร ใช้ตัวย่อว่า ct. หรือ cts.
เพชร 1 ct. (กะรัต) จะเท่ากับ 0.2 กรัม สำหรับเพชร 1 ct. จะแบ่งเป็น 100 ตัง ดังนั้น ถ้าเพชร 0.75 cts. จึงเท่ากับเพชร 75 ตัง เป็นต้น
Carat Weight ใช้ในการคำนวณราคาเพชร ราคาของเพชรจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณกับขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพราะเพชรมีทั้งความคงทน สวยงาม และหายาก เป็นสิ่งที่บอกความมีระดับให้กับผู้สวมใส่ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เพชรขนาดใหญ่จะมีราคาที่สูงขึ้น และเป็นที่หมายตาของสาวๆ ดังที่เราเคยได้ยินว่า Diamond is a girl best friend
จากที่กล่าวมาข้างต้น เชื่อว่าหลายคนคงได้คำตอบจาก พชร เจมส์ แล้วว่า ซื้อเพชรให้เป็น ต้องดูยังไง.. อย่าลืมว่า จะซื้อเพชรต้องเช็ค 4Cs ของเพชรก่อน ไม่ว่าจะเป็น Clarity (ความสะอาด) Color (สี) Cut (การเจียระไน) และ Carat (น้ำหนัก)
แต่เชื่อว่าหลายคนอาจมีคำถามต่อว่า เมื่อซื้อเพชรจำเป็นต้องพิจารณา C โดยเรียงตามบทความเลยมั๊ย หากไม่จำเป็นควรเริ่มจาก C ไหนก่อนดี คนซื้อต้องถามตัวเองก่อนว่าอยากได้เพชรที่เน้นอะไร เช่น อยากได้เพชรเม็ดใหญ่ๆ ก็เริ่มพิจารณาจาก Carat (น้ำหนัก) ก่อน หรือ ต้องการเพชรขาวจั๊วๆ ก็เริ่มจาก Color (สี) แล้ว สามารถลดทอน C ตัวอื่นเพื่อให้ได้เพชรที่ต้องการภายใต้งบที่กำหนดไว้